เดิมทีตั้งใจว่าจะให้ครับ 7 เดือนแล้วค่อยเขียนบทความวิธีการ แต่พอดีมีอีเมล์มาสอบถามวิธีลดความอ้วนมาพอดี เลยเขียนตอบไปแบบหมดเปลือกส่งเมล์ไป แต่ไหนๆก็เขียนไปแล้วเอามาลงเว็บตัวเองสักหน่อยแล้วกันเผื่อใครถามจะได้ส่งลิงค์ไปให้เลยง่ายดี วิธีของผมอาจจะถูกหรือผิดอันนี้ก็ลองไปปรับใช้กันดูครับ แต่สำหรับตัวผมเองมันได้ผล ณ ตอนที่เขียนบทความนี้ผ่านไป 5 เดือนน้ำหนักลด 21 กิโลกรัม จาก 99 กิโลกรัม มาเป็น 78 กิโลกรัม ซึ้งตั้งใจจะให้ต่ำกว่า 70 กิโลกรัมอาจจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ต่อจากนี้เพราะว่าหลังๆมันเริ่มจะลดไม่ลง อาจจะเกิดจากไขมันเก่าที่อยู่มานานแล้วต้องใช้เวลาหน่อย
เอาล่ะการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนนั้นต้องอาศัยพลังใจล้วนๆเรียกว่าเกินร้อยกันทีเดียว (ยากที่สุดตอนเริ่มต้น) ที่สำคัญต้องไม่ใจร้อน และค่อยๆลดไปเรื่อยๆ โดยการปรับปรุงโภชนาการและออกกำลังกายจนติดเป็นนิสัย อย่าเพิ่งตั้งแง่ครับมันไม่ยาก อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีเวลาลองคิดถึงตอนที่เราเอาเวลาไป ดูทีวี เล่น Facebook ดูหนัง ต่างๆนาๆ เห็นมั้ยว่าเวลาเหลือเยอะมาก งั้นเรามาเริ่มกันเลย หลักการคือรับแคลรอรี่เข้าร่างกายให้น้อยกว่าเอาออก ถ้าเป็นผู้หญิงวันนึงต้องการพลังงานอยู่ที่ 1,500 กิโลแคลอรี่ ผู้ชายไม่เกิน 2,000 กิโลแคลอรี่ ที่กล่าวมาคือผู้คนทั่วไปที่ทำงาน Office ไม่ได้ใช้แรงมากเหมือนนักกีฬาหรือคนงานก่อสร้าง เมื่อรู้ตัวแล้วว่าเป็นเพศไหนก็กินอย่าให้เกินความต้องการพลังงานของร่างกาย และออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยรับรองได้ผลครับจะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับรูปร่างและปัจจัยของแต่ล่ะคนแล้วล่ะ ส่วนวิธีที่ผมใช้อยู่และได้ผลดังนี้ครับ
ควบคุมอาหาร
- กินข้าวครบ 3 มื้อ ห้ามอดมื้อใดมื้อหนึ่ง เพราะจะทำให้ร่างกายเผาผลาญน้อยลง
- ลดคาร์โบไฮเดรต กินข้าว 1 ทัพพีต่อมื้อ และไม่กินหลัง 6 โมงเย็นเด็ดขาด
- ไม่กินของหวาน น้ำหวาน ขนมหวาน ทุกชนิด (ไม่ต้องกลัวขาดน้ำตาล ในอาหารที่กินๆกันอยู่ร้านเค้าใส่มาให้เยอะแล้ว)
- เลี่ยงอาหารของมันของทอด กินผัดสดและผลไม้ให้เยอะเข้าไว้
การออกกำลังกายและการพักผ่อน
- นอนก่อนเที่ยงคืนหรือ 5 ทุ่มทุกวัน
- เดินเร็วสลับวิ่งเหยาะๆ (ไม่ใช่วิ่งเร็ว) ต่อเนื่อง 1 ชม. อย่างน้อยอาทิตย์ล่ะ 3-4 วัน
เทคนิค
- วิ่งช่วงเช้าก่อนกินข้าวเช้า เพราะในขณะที่ท้องว่างร่างกายจะดึงไขมันมาเป็นพลังงาน
- ชั่งน้ำหนักตอนตื่น 1 ครั้งทุกวัน เพื่อจะได้รู้น้ำหนักที่แท้จริงตอนนั้น
- เวลาหิวกลางคืนให้ดื่มน้ำเย็น ถ้าหิวจนทนไม่ไหวให้กินผลไม้ไม่หวานแทน
- ถ้าหิวกลางคืนแบบสุดๆ ให้นับหรืออ่านแคลอรี่ที่กินเข้าไปว่าจะคุ้มกับที่ต้องไปออกกำลังกายเป็นชั่วโมงๆเพื่อเผาผลาญ หรือไม่ “ทำให้กินไม่ลง เพราะไม่อยากเหนื่อย”
- 1 อาทิตย์ ให้มี 1 วัน เป็นวันกินอะไรก็ได้ที่ชอบ (นับแคลอรี่ในใจจะได้กินไม่เยอะมาก)
- นับแคลอรี่ไม่ต้องซีเรียสมากจำคร่าวๆก็พอ เช่น มื้อนึงกินไม่ให้เกิน 500 กิโลแคลอรี่ ถ้าเกินจริงๆมื้อถัดไปก็ลดลง เพื่อให้เฉลี่ยต่อมื้อก็เท่าเดิม
ข้อมูล อาจจะไม่ตรงตามทฤษฏีเป๊ะ แต่ผมทำแล้วได้ผลไม่เหลือบ่ากว่าแรงครับ ลองเอาไปทดลองและปรับใช้กับตัวเองดู ขอให้มีความสุขกับการลดน้ำหนักครับ