tatump.

พิมพ์เขียวชีวิต

Cover Image for พิมพ์เขียวชีวิต
Tum Sirichai
ตาตั้ม • โพสต์

“พิมพ์เขียวชีวิต”

เป็นหลักการส่วนตัวเพื่อไว้เตือนสติตัวผมเอง สำหรับยึดใช้ในการดำรงชีวิตให้มีความสุข ไม่ไหลตามกระแสสังคมจนชีวิตรุงรังและยุ่งเหยิง จึงได้ทำการบันทึกไว้ เพื่อให้ตัวเองกลับมาอ่านทบทวน หากลืมปฏิบัติจนทำให้เกิดความทุกข์หรือความเครียด โดยแต่ละวิธีล้วนเป็นสิ่งที่เคยทำและได้ผลกับตัวเองจริง เพียงแต่ต้องฝึกและทำบ่อยๆ มิเช่นนั้นจะลืม แล้วกลับสู่วงวนเดิมๆ


สรุปสั้น

  • อย่ามัวแต่ส่องดูชีวิตคนอื่น
  • อย่าพาดพิงใคร
  • ไม่มองโลกแง่ร้าย “ปล่อยวาง”
  • หลีกเลี่ยง Toxic People
  • รักตัวเองก่อน “อย่าด้อยค่าตัดพ้อตัวเอง”
  • “ต้องกล้า” อย่าข้ออ้างเยอะ
  • ทำตัวให้มีประโยชน์ แล้วชีวิตจะมีคุณค่าขึ้นมาเอง
  • ส่งเสริม ชื่นชม และช่วยเหลือคนอื่น “อย่าอิจฉา”
  • “เลือกให้ถูกแล้วทำให้ถึง” คนเราไม่เหมือนกัน ไม่ต้องเลียนแบบใคร
  • รับเข้าแต่สิ่งที่จำเป็น “ถ้าเรียนรู้แล้วไม่ได้ใช้ภายใน 3 เดือน ให้ข้ามไป”
  • เรียนแล้วไม่ใช้ ! จะเรียนไปทำซากอะไร ?
  • เลือกโฟกัสแต่เรื่องที่สำคัญ อย่าคาดหวังกับสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม
  • “วิธีแก้ไขนิวรณ์ 5” เริ่มต้นทำการจดจ่อมีสมาธิ และ ทำทีละอย่างวางหินทีละก้อน
  • ทำให้เต็มที่สุดกำลังสักทาง “อย่าเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ”
  • เลิกรับข้อมูลข่าวสารที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรา เช่น การเมือง ดารา เรื่องคนอื่น “เสียเวลาในชีวิต”
  • “พลังใจ” เหมือนน้ำมันรถ ยิ่งใช้ยิ่งหมดอย่าใช้พร่ำเพรื่อ หมั่นสังเกตระดับของพลังใจ และรีบทำงานที่สำคัญที่สุดก่อน ในช่วงที่พลังใจยังเต็มเปี่ยม
  • หาอ่านแต่สิ่งที่อยู่ในขอบเขตความสามารถเท่านั้น “ตั้งเป้าหมายแล้วหาอ่านเอง” อย่าเป็นผู้รับข่าวสาร เพราะมันสะเปะสะปะ อ่านแต่สิ่งที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เติบโตก้าวหน้า
  • ความสำเร็จ เกิดจากการโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญที่สุดเพียงสิ่งเดียว จำไว้ “ทุกเรื่องมีความสำคัญไม่เท่ากัน”
  • หากเราให้ความสำคัญกับทุก ๆ เรื่องเท่ากันหมด เราจะถูกงานเหล่านั้นจัดการ และกลายเป็นคนที่ทำงานหนักทุกวันแต่ไม่มีวี่แววของความสำเร็จ
  • อะไรคือ “สิ่งเดียว” ที่ฉันทำได้ ซึ่งจะทำให้สิ่งอื่นๆ กลายเป็นเรื่องง่ายหรือไม่จำเป็นต้องทำเลย

“อย่าลืมชีวิตเรามีจำกัด” ชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ “เดี๋ยวเราก็ตายแล้ว”


ช่างแม่ง! อยู่กับปัจจุบัน “ปล่อยวาง”

“ช่างแม่ง” คำนี้มีประโยชน์กับตัวเองมาก จะใช้เมื่อเริ่มวิตกกังวลในเรื่องต่างๆ คิดอะไรที่มากไปเป็นแง่ลบบั่นทอนจิตใจ “อย่าแบกโลก … อย่าใช้ชีวิตตามความคาดหวังของ “คนอื่น” “จงมีชีวิตอยู่ในห้องที่มีแต่วันนี้” คิดถึงอดีตและอนาคตได้ แต่ “อย่ากังวล” กับอดีตและอนาคต

วิธีเอาชนะความกลัวและความขี้เกียจ

หยุดคิด! ไม่ต้องคิดอะไรให้ลงมือทำเลย เพราะถ้ายิ่งคิดเยอะๆเข้า มันจะไม่ได้ทำ เช่นอยากจะวิ่งตอนเช้า ก็เตรียมถุงเท้ารองเท้าวางรอไว้เลยให้พร้อม ใส่เสื้อพร้อมวิ่งก่อนนอนไว้เลย เพื่อลดปัจจัยที่ทำให้เราคิดว่ามันจะยุ่งยาก

ทำทีละอย่าง “ทำทันที”

มีอะไรให้ทำเยอะแยะเต็มไปหมด ขั้นต้นคือลำดับความสำคัญ อะไรที่เป็นประโยชน์และนำพาเราไปสู่เป้าหมายอย่างแท้จริง ส่วนสิ่งที่ไม่สำคัญ เช่น social media ตัดออกไปเลย ไร้สาระไร้แก่นสารมาก สิ่งสำคัญคือ “ทำทีละอย่าง” และ “โฟกัสแค่เป้าหมายของเรา”

วิธีคิดแบบเติบโต (Growth Mindset)

ถ้าเจอปัญหา, ความยาก, การดูถูกเหยียบหยาม หรือพบความล้มเหลว “ฝึกรับมือกับอารมณ์ต่างๆให้ได้ ใช้สติไตร่ตรองและเปลี่ยนมันเป็นพลังงานด้านลบเปล่านั้นผลักดันตัวเอง” อดทนขยันพิสูจน์ตัวเอง เอาชนะตัวเอง “เลิกประชดชีวิตเพราะมันไม่ช่วยอะไร” การจัดการกับความรู้สึก ทัศนคติ สำคัญมาก

หยุดวิตกก่อนที่ความกังวลจะทำให้ทุกข์

อย่าทำตัวให้ว่าง อันนี้ใช้ได้ผลมาหลายครั้ง ความหมายคือให้เราหาอะไรทำสิ่งสำคัญคืองานนั้น “ต้องใช้ความคิด” เพราะถ้าทำโดยไม่คิดอะไรเลยจิตมันจะยังฟุ้งซ่านเหมือนเดิม แต่ถ้าเราใช้ความคิดวิเคราะห์ในการทำ ในทางวิทยาศาสตร์มนุษย์จะสามารถคิดได้แค่อย่างเดียวไม่สามารถคิดหลายอย่างพร้อมกันได้ แรกๆมันจะยากเพราะจิตมันจะเตลิด เราต้องฝึกให้รู้ตัว “มีสมาธิ” จดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ อย่างเช่น อ่านหนังสือ ทำงานที่ใช้ความคิดวิเคราะห์ อะไรทำนองนี้

เลิกยุ่งเรื่องของคนอื่น

การที่ยุ่งเรื่องของคนอื่นมากเกินไป มันจะทำให้จิตใจไม่สงบ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตัวเราเอง ทำให้เสียเวลาชีวิตไปกับการทำเรื่องที่สำคัญ และโดยมากจะมีแต่ข่าวดราม่า นินทา ลบๆ ดังนั้นจึงตัดสินใจ “เลิกเล่น Facebook และหยุดเสพข่าวไม่ดีทุกช่องทาง”

เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น

“โลกออนไลน์ทำให้เราเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นได้ง่ายขึ้น” บางครั้งเห็นคนอื่นประสบความสำเร็จ ก็เกิดอยากมีอยากได้ตามเขา ทำให้เกิดความทุกข์ เพราะถ้าไม่ได้ดั่งหวังก็จะ เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ให้เปรียบเทียบกับตัวเราเองเท่านั้นก็พอ ว่าพัฒนาหรือดีขึ้นหว่าเมื่อวานไหม

อย่าเลียนแบบใคร

“จงเป็นตัวของตัวเองถ้าไม่เดือดร้อนใคร” ทุกคนในโลกนี้ไม่มีใครเหมือนใคร ความเป็นตัวเราสำคัญที่สุดไม่ต้องเลียนแบบใคร บางคนเกิดมาเพื่อพุดเก่ง บางคนเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำ บางคนเกิดมาเพื่อใช้ความคิดวิเคราะห์ในที่ที่สงบ ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร

วิเคราะห์ปัญหาและทางแก้

รวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมด พิจารณาและชั่งน้ำหนักข้อเท็จจริงเหล่านั้นและตัดสินใจ เมื่อตัดสินใจแล้วให้ดำเนินการในทันที โดยให้เขียนคำตอบของคำถามต่อไปนี้

  • ปัญหาที่เผชิญคืออะไร?
  • อะไรคือสาเหตุของปัญหา?
  • แนวทางใดที่สามารถแก้ไขปัญหาได้? (สามารถมีมากกว่าหนึ่งแนวทาง)
  • แนวทางแก้ปัญหาใดที่เหมาะสมที่สุด?

สุดท้าย "เดี๋ยวเราก็ตาย"

แทบจะสรุปได้ว่าชีวิตนี้ อะไรที่ไม่มีนัยสำคัญ โมโหโทสะ นินทา ตัดสินคนอื่น เปรียบเทียบ ล้วนทำให้เกิดทุกข์ทั้งนั้น แล้วถ้าเรายึกมั่นถือมั่นไปก็ไม่ได้ช่วยให้เราอายุยืนขึ้น เพราะพรุ่งนี้เราอาจจะไม่หายใจแล้วก็ได้ อย่าได้เสียเวลากับเรื่องเหล่านี้เลย